วันเสาร์ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ลิโป้

ประวัติโดยย่อ
ลิโป้ ชื่อรอง เฟยเสียง
ปีเกิดไม่แน่ชัดแต่คาดว่าน่าจะเป็นช่วงปี ค.ศ.156-160 เป็นชาวเมืองอู่เหยียน มณฑลซานซี ถิ่นเกิดของลิโป้นั่นอยู่ทางตอนเหนือของประเทศจีน ซึ่งบรรดานักรบชื่อดังในประวัติศาสตร์หลายต่อหลายคนที่มีความเก่งกาจในการบบนหลังม้านั้น ต่างก็มีถิ่นฐานอยู่ทางตอนเหนือด้วยกันทั้งนั้น ซึ่งในยุคสามก๊กนั้นเหล่าผู้กล้าที่ยอดนักรบบนหลังม้านั้นก็มี จูล่ง ม้าเฉียวเตียวเลี้ยว ฯลฯนั่นเป็นเพราะก่อนยุคสามก๊กนั้น แถบตอนเหนือของประเทศจีนรวมถึงบริเวณนอกกำแพงเมืองจีนขึ้นไปนั้น เป็นดินแดนของเหล่านักรบบนหลังม้ามากว่าหลายร้อยปี คนจีนส่วนในแถบนี้ส่วนมากมักจะเป็นลูกผสมระหว่างจีนแท้กับนอกด่าน ด้วยเหตุนี้จึงสืบทอดเอาความสามารถการรบบนหลังม้าของพวกนอกด่านมาด้วย ซึ่งการที่ลิโป้เองก็เกิดมาโดยมีสายเลือดแห่งนักรบบนหลังม้าติดตัวมาแต่กำเนิด ทำให้ภายหลังนั้น ชื่อของเขาก็ได้รับการยกย่องในฐานะนักรบอันดับหนึ่งของยุคช่วงวัยหนุ่มของลิโป้นั้นมีประวัติไม่แน่ชัด ทราบเพียงว่าเมื่อตอนที่เป็นหนุ่มฉกรรจ์นั้น เขาก็ได้เป็นยอดฝีมือในเชิงยุทธ์ที่เก่งกาจเหนือผู้คน เก่งครบเครื่องทั้งการขี่ม้า การใช้เพลงอาวุธ และการยิงธนู จนถูกขนานนามว่านักรบบิน เหตุนี้ทำให้เขาได้รับการอุปถัมภ์จากเต็งหงวนซึ่งเป็นเจ้าเมืองเป็งจิ๋ โดยเต็งหงวนนั้นชื่นชอบในฝีมือการรบของลิโป้มาก โดยให้เขาเป็นองครักษ์ประจำตัวและถึงกับรับเป็นบุตรบุญธรรมด้วยและในปี ค.ศ.189 ได้เกิดเรื่องใหญ่ขึ้นในประวัติศาสตร์จีนหลังจากที่เหล่าโจรโพกผ้าเหลืองได้ถูกปราบปรามไปเป็นเวลา 4 ปีกว่าๆ ภายในเมืองหลวงได้เกิดความวุ่นวายครั้งใหญ่ขึ้น ซึ่งเรื่องก่อนหน้านั้นมันไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรงกับลิโป้นัก แต่มันเกี่ยวข้องกับชายผู้โหดเหี้ยมผู้หนึ่ง ซึ่งจะมีชื่อเสียงเหม็นโฉ่วในประวัติศาสตร์จีนไปอีกหลายพันปี ซึ่งเขาผู้นี้เป็นผู้ที่ทำให้ลิโป้ได้โอกาสแสดงฝีมือในการรบจนเป็นที่เลื่องลือไปทั่วแผ่นดินเรื่องคือ ในปี ค.ศ. 189 พระเจ้าฮั่นเลนเต้สิ้นพระชนม์ลงด้วยอายุ 34 ปี โดยทิ้งโอรสที่ยังมีพระชนม์น้อยไว้ 2 คนนั่นคือรัชทายาทเล่าเปียนกับองค์ชายรองเล่าเหี้ยนหรือโดยตำแหน่งก็คือตันหลิวอ๋องจากนั้นรัชทายาทเล่าเปียนจึงได้ขึ้นครองบัลลังก์ต่อมาทั้งที่ด้อยสติปัญญา โดยมีพระนางโฮไทเฮากับโฮจิ๋นพี่ชายซึ่งได้เป็นสมุหกลาโหม เป็นผู้กุมอำนาจที่แท้จริงการนี้ทำให้ 10 ขันทีผู้เคยกุมอำนาจการปกครองในสมัยของพระเจ้าเลนเต้นั้น ต้องหาทางทำอะไรซักอย่างเพื่อเรียกเอาอำนาจของตัวเองกลับมาและรักษาชีวิตไว้ เพราะโฮจิ๋นนั้นต้องการที่จะกำจัดเหล่าขันทีและกุมอำนาจเองมานานแล้วแต่ 10 ขันทีก็ชิงลงมือก่อน ด้วยการลวงโฮจิ๋นเข้าวังยามวิกาลแล้วรุมฆ่าทิ้ง อ้วนเสี้ยวซึ่งเป็นคนสนิทของโฮจิ๋นจึงนำกำลังทหารเข้าวังแล้วกวาดล้างเหล่าขันทีทั้งหมดอันที่จริงอ้วนเสี้ยวน่าที่จะกุมสถานการณ์ทั้งหมดได้ แต่ทุกอย่างก็ไม่ได้เป็นแบบนั้น เพราะก่อนที่จะเกิดการกวาดล้าง ฮ่องเต้และน้องชายคือตันหลิวอ๋องได้เสด็จหนีออกนอกเมืองหลวงมาก่อนและได้พบกับตั๋งโต๊ะเจ้าเมืองเสเหลียง ที่นำกำลังทหารมาเพื่อยุติความวุ่นวายพอดีเกี่ยวกับการที่ตั๋งโต๊ะได้โอกาสมาที่เมืองหลวงนั้น ต้องขอบอกว่าเป็นเพราะความเบาปัญญาของโฮจิ๋นโฮจิ๋นคิดที่จะกำจัด 10 ขันที แต่กลับทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ ซึ่งการที่จะสังหารเหล่าขันทีพวกนี้นั้น หากเป็นช่วงที่พระเจ้าเลนเต้ยังมีพระชนม์ชีพอยู่คงจะทำได้ลำบาก เพราะในตอนนั้นพวกขันทีเป็นกลุ่มที่กุมอำนาจในราชสำนักไว้ แต่เมื่อสิ้นพระเจ้าเลนเต้แล้ว ผู้ที่ขึ้นมากุมอำนาจก็คือโฮจิ๋นและโฮไทเฮาผู้เป็นน้องสาวและเป็นแม่ของฮ่องเต้องค์ใหม่โฮจิ๋นหมายจะกำจัด 10 ขันที แต่ติดตรงที่พระนางโฮไทเฮาออกมาปกป้องซึ่งสาเหตุคงเป็นเพราะเตียวเหยียงหัวหน้า 10 ขันทีนั้นได้อาศัยฝีปากในการอ้อนวอนและประจบประแจงจนสามารถรักษาชีวิตพวกตนเองไว้ได้แต่ถึงอย่างนั้นก็ตาม อำนาจในการบัญชากำลังทหารก็อยู่ในมือโฮจิ๋น นั่นเท่ากับว่าถ้าอยากจะกำจัด 10 ขันที มันไม่ใช่เรื่องยากเลย รอเพียงโอกาสเหมาะๆจะออกประกาศความผิดของ10 ขันทีอย่างเป็นทางการหรือจะหาเรื่องเนรเทศจนถึงส่งมือสังหารเข้าไปเมื่อไหร่ก็ทำได้ ในเมื่อพวกตนเป็นผู้กุมอำนาจแล้วแต่โฮจิ๋นกลับเลือกวิธีที่ไม่ควรทำที่สุด นั่นคือการประกาศออกมาว่าต้องการสังหารเหล่าขันที และเรียกระดมเหล่าขุนศึกจากหัวเมืองเข้ามาเมืองหลวง ซึ่งตั๋งโต๊ะเองก็เป็นเจ้าเมืองเสเหลียงที่กุมกำลังทหารนับแสน เขาจึงเป็นคนหนึ่งที่ได้รับหมายเรียกให้เข้าเมืองหลวงเพื่อปราบปรามเหล่าขันที โดยที่ตั๋งโต๊ะนั้นรอโอกาสที่จะได้เข้ามายังส่วนกลางมานานแล้ว แถมคราวนี้มีคนมายื่นโอกาสให้และยังหาขออ้างอย่างการทำเพื่อความชอบธรรมของบ้านเมืองอีกด้วย ดังนั้นการกระทำของโฮจิ๋นครั้งนี้จึงเป็นการชักนำหายนะเข้ามาให้กับราชวงศ์ฮั่นอย่างที่ตัวเองก็ไม่ตั้งใจแท้ๆและการที่โฮจิ๋นทำแบบนี้เป็นการทำให้พวก 10 ขันทีนั้นได้ตั้งตัวและเท่ากับบีบให้พวกเขาต้องเลือกหนทางของหมาจนตรอกหมาจนตรอกเป็นสิ่งที่น่ากลัวที่สุดเพราะมันจะทำทุกอย่างเพื่อให้ตนมีชีวิตรอดโดยไม่สนใจว่าจะต้องทำให้เกิดความเสียหายต่อผู้อื่นและตนเองแค่ไหน นี่จึงเป็นที่มาให้ 10 ขันทีแอบอ้างราชโองการเรียกโฮจิ๋นเข้ามาสังหาร และก่อเกิดเป็นการนองเลือดในวังหลวงเมื่ออ้วนเสี้ยวสั่งล้างบางพวกขันทีหลังจากนั้นเมื่อตั๋งโต๊ะได้โอกาสทองมายังไม่คาดฝัน แถมยังได้เข้าพบฮ่องเต้ด้วย มีหรือที่คนเล่ห์ร้ายและทะเยอทะยานอย่างเขาจะไม่ฉวยโอกาสไว้ตั๋งโต๊ะถือโอกาสทองนี้ นำเสด็จฮ่องเต้กลับเข้าเมือง และจากนั้นก็สังหารโฮไทเฮาและปลดฮ่องเต้ลงจากบังลังก์ โดยได้ยกเอาตันหลิวอ๋องผู้เป็นองค์ชายรองซึ่งมีสติปัญญาและบุคลิกภาพที่เหมาะสมกับการเป็นฮ่องเต้มากกว่าให้ขึ้นนั่งบัลลังก์แทน มีพระนามว่าพระเจ้าฮั่นเหี้ยนเต้ส่วนตั๋งโต๊ะนั้น เขาได้ตั้งตัวเองขึ้นเป็นผู้สำเร็จราชการและกุมอำนาจการปกครองเบ็ดเสร็จแถมยังยกตัวเป็นบิดาของฮ่องเต้ด้วยเหล่าขุนนางต่างพยายามต่อต้าน แต่ตั๋งโต๊ะนั้นกุมกำลังทหารหลายแสนไว้ในมือ เหล่าขุนนางผู้ภักดีที่พูดต่อต้านจึงถูกเก็บไปทุกคน ในบรรดาขุนนางเหล่านั้น เต็งหงวนเป็นคนหนึ่งที่พูดด่าตั๋งโต๊ะ จนตั๋งโต๊ะโกรธและสั่งทหารให้จับตัวเขาแต่ที่ข้างกายเต็งหงวนนั้นมีลิโป้เป็นองครักษ์ และได้แสดงฝีมือจัดการกับทหารเหล่านั้นจนหมด การปรากฏตัวครั้งแรกของลิโป้ในหนังสือสามก๊กนั้นก็คือครั้งนี้นั่นเองเมื่อตั๋งโต๊ะได้เห็นฝีมือในเชิงยุทธ์และพละกำลังอันมหาศาลของลิโป้แล้ว จึงรู้สึกชื่นชอบมาก ลิยูจึงเสนอแผนการที่จะดึงตัวลิโป้มาใช้งาน จึงได้ส่งลิซกซึ่งเป็นคนบ้านเดียวกับลิโป้ ให้ทำการเกลี้ยกล่อมลิโป้มาอยู่กับตนแทน โดยมอบเงินทองรวมถึงม้าเซ็กเธาว์ ซึ่งเป็นยอดอาชาให้เป็นของขวัญแก่ลิโป้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น