การล้างหน้าถือเป็นการทำความสะอาดผิวหน้า ที่ทุก ๆ คนสมควรจะกระทำเป็นประจำอยู่แล้ว เพราะในแต่ละวันเรามักจะต้องเจอฝุ่นควันต่าง ๆ ไหนจะเครื่องสำอางค์ต่าง ๆ อีก ดังนั้นการล้างหน้าจึงเป็นการชำระล้างสิ่งสกปรกต่าง ๆ ที่อยู่บนผิวหน้าให้หมดไป
แต่การล้างหน้าที่ดีนั้น ก็จำเป็นที่จะต้องทำตามวิธีที่ถูกต้อง จึงจะได้ประโยชน์ ในทางกลับกันหากคุณล้างหน้าไม่ถูกวิธี แม้ว่าใบหน้าของคุณจะสะอาดจริง แต่ก็อาจจะเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาผิวอย่างอื่นตามมา ซึ่งการล้างหน้าที่ถูกต้องทำได้ดังนี้เริ่มจากการล้างหน้าวันละ 2 ครั้งคือตอนตื่นนอนตอนเช้ากับตอนอาบน้ำตอนเย็น ไม่ควรล้างหน้าบ่อย เพราะจะทำให้หน้าแห้งได้ เว้นเสียแต่ว่าคุณไปทำกิจกรรมที่ต้องเสียเหงื่อมาก ๆ เช่น หลังจากการเล่นกีฬา หรือ ทำไร่ทำสวน ซึ่งอาจจะทำให้ใบหน้าของคุณสกปรก อันนี้อนุโลมให้ล้างหน้าได้ค่ะ
น้ำเปล่าธรรมดาที่ไม่ร้อน ไม่เย็นจนเกินไป คือน้ำที่เหมาะที่จะใช้ล้างหน้ามากที่สุด ในขณะที่ล้างหน้าควรล้างอย่างเบามือที่สุด ไม่เช็ด หรือถูหน้าแรง ๆ เด็ดขาด นอกจากนี้คลีนเซอร์หรืออุปกรณ์ล้างหน้าอื่นๆ นั้นแนะนำสำหรับคนที่แต่งหน้าเป็นประจำ แต่ถ้าคุณไม่ได้แต่งหน้า สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ก็แทบจะไม่มีความจำเป็นเลยค่ะ
คนที่ล้างหน้าบ่อย ๆ และใช้โทนเนอร์เช็ดหน้าบ่อย ๆ นั้นส่วนใหญ่มักจะมีปัญหาผิวแห้ง ผิวแพ้ง่าย ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะหลายคนมักจะเข้าใจว่า ขี้ไคลเป็นสิ่งสกปรกดังนั้นหลาย ๆ คนจึงเช็ดถูผิวหน้าจนเกลี้ยง แบบว่าขี้ไคลก็ไม่เหลือแม้แต่น้อย ซึ่งนั่นก็ดูจะเป็นความเข้าใจที่ผิดไปสักหน่อย เพราะขี้ไคล คือ ชั้นหนังกำพร้าที่เกาะติดอยู่กับผิวหนังชั่นบน ควบคู่ไปกับชั้นน้ำมันเคลือบผิวที่คอยเป็นเกราะคุ้มกัน ปกป้องผิวจากฝุ่นละอองเชื้อโรค และสารเคมีไม่ให้ซึมฝ่าลงไปทำร้ายผิวได้ หากคุณทำความสะอาดใบหน้ามากจนเกินไปอาจจะทำให้ผิวหน้าเราขาดภูมิคุ้มกันธรรมชาติไปได้ และนั่นอาจจะเป็นส่วนหฯึ่งที่ทำให้ผิวของคุณแพ้ง่าย
โดยธรรมชาติแล้ว ผิวหนังกำพร้าของคนเรา จะหลุดออกมาเองทุกวัน และจะพาเอาแป้งและฝุ่นออกมาด้วย โดยไม่จำเป็นต้องออกแรงถูเลยทีเดียว แต่เพราะเดี๋ยวนี้สาว ๆ หลายคนมักจะแต่งหน้ากันเป็นประจำทุกวัน จึงทำให้การล้างหน้าต้องมีขั้นตอนที่ยุ่งยากเพิ่มขึ้นมา
แต่ถ้าวันไหนที่คุณอยู่บ้านเฉย ๆ ก็แนะนำว่าให้อยู่บ้านโดยไม่แต่งหน้าดูนะคะ ถือเป็นการพักผ่อนใบหน้า แถมยังไม่ต้องเสียเวลายุ่งยากในการล้างหน้าด้วยค่ะ ~*
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น