วันอาทิตย์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2553

H

วิตามินเอช (BIOTIN)
ไบโอติน หรือ vitamin H จัดเป็นวิตามินชนิดหนึ่งในกลุ่มวิตามิน บี จำเป็นสำหรับขบวนการใช้คาร์บอนไดออกไซด์ในร่างกาย เช่น การเติมคาร์บอนไดออกไซด์ให้แก่สารประกอบ หรือเอาคาร์บอนไดออกไซต์ออกจากสารประกอบ จำเป็นสำหรับการสังเคราะห์กรดไขมันที่ไม่อิ่มตัว จำเป็นสำหรับการสังเคราะห์เอนไซม์ในร่างกาย ช่วยบำรุงผิวหนัง ผม กล้ามเนื้อ และประสาท อาหารที่อุดมไปด้วยไบโอติน ได้แก่ ตับหมู ไตวัว เนื้อวัว ปลาเนื้อขาว น้ำมันปลา ข้าวกล้อง ข้าวโพด รำข้าวสาลี ไข่ นม เนย โยเกิรต์ ผักต่างๆโดยเฉพาะดอกกะหล่ำ กะหล่ำปลี เห็ด แครอท แต่ก็ยังไม่มีข้อกำหนดเกี่ยวกับปริมาณของวิตามินที่ร่างกายต้องการในแต่ละ วัน วิตามินนี้จะถูกสังเคราะห์โดยจุลินทรีย์ในลำไส้ ไบโอตินเป็นกรดที่มีกำมะถันอยู่ด้วยในโมเลกุล ผลึกของ ไบโอตินเป็นรูปเข็มยาว ในธรรมชาติมักเกิดรวมอยู่กับกรดอะมิโนไลซีน ระดับของไบโอตินในเซรุ่มของคนปกติอยู่ระหว่าง 213-404 นาโนกรัม/มล. สาเหตุหนึ่งที่ร่างกายอาจขาดไบโอตินได้ก็คือ การรับประทานไข่ขาวดิบในปริมาณมากเป็นระยะเวลานานๆ ทั้งนี้เพราะในไข่ขาวมีสารที่จะทำลายไบโอติน เมื่อร่างกายเกิดอาการขาดวิตามินนี้ก็จะทำให้เกิดเป็นโรคผิวหนัง ผิวหนังมีสีเทา อ่อนเพลีย โลหิตจาง มีโคเลสเตอรอลในเลือดสูงกว่าปกติ
* ข้อมูลทั่วไป o วิตามิน H หรือไบโอติน จัดอยู่ในกลุ่มวิตามินบีรวม ซึ่งสามารถละลายน้ำได้ วิตามินตัวนี้จะพบได้ในทุกเซลล์ในร่างกาย แต่พบว่ามีปริมาณน้อย โดยพบว่าพบมากที่ตับและไต ของร่างกาย ร่างกายสามารถสร้างได้เอง โดยแบคทีเรียจากลำไส้ o คุณสมบัติ เป็นผลึกรูปเข็ม ไม่มีสี ทนต่อความร้อน แสงสว่าง กรดและด่าง ละลายได้ดีในน้ำร้อนและแอลกอฮอล์ * ประโยชน์ต่อร่างกาย o ทำ หน้าที่เป็นโคเอนไซม์ในขบวนการต่างๆของร่างการ เช่น กระบวนการเผาพลาญของร่างกาย ขบวนการสร้างกรดไขมัน พิวรีน เป็นตัวส่งเสริมการเจริญเติบโตของร่างกาย ช่วยผลิตฮอร์โมนเกี่ยวกับการสืบพันธุ์ และอินซูลิน อีกทั้งยังรักษาสุขภาพของผิวหนัง ผม ต่อม เหงื่อ และกระดูกอ่อนอีกด้วย * แหล่งที่พบ o จะ พบทั่วไปในแหล่งอาหารธรรมชาติ แต่พบมากในเครื่องในสัตว์ เช่น ตับหมู ไตหมู รวมทั้งพวก เนื้อวัว ปลาเนื้อขาว น้ำมันปลา ข้าวโพด ข้าวกล้อง ไข่แดง ถั่ว ยีสต์ ผักเช่น ดอกกะหล่ำปลี แครอท และพบในผลไม้ได้บ้าง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น