วันพุธที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ความรัก กับ ความเข้าใจ

by nooyingja

อย่า ป ล่ อ ย ใ ห้ ใ ค ร ค น ใด ค น ห นึ่ ง มี น้ำ ต า
ทั้ ง ๆ ที่ อี ก ค น ห นึ่ ง กำ ลั ง ดี ใ จ
อ ย่ า ป ล่ อ ย ใ ห้ ใ ค ร อี ก ค น ห นึ่ ง ยิ้ ม
ทั้ ง ๆ ที่ อี ก ค น ห นึ่ ง กำ ลั ง ร้ อ ง ไ ห้
อ ย่ า ป ล่ อ ย ใ ห้ ใ ค ร ค น ใ ด ค น ห นึ่ ง พู ด
ทั้ ง ๆ ที่ อี ก ค น ห นึ่ ง ไ ม่ ต้ อ ง ก า ร ฟั ง
ค ว า ม รั ก ต้ อ ง ม า จ า ก ค ว า ม รู้ สึ ก ข อ ง ค น ส อ ง ค น...
อ ย่ า ใ ห้ ใ ค ร ค น ใ ด ค น ห นึ่ ง ห ยิ บ ยื่ น
แ ต่ อี ก ค น ห นึ่ ง ไ ม่ ต้ อ ง ก า ร
ค ว า ม รั ก เ ป็ น เ พี ย ง ส า ย ใ ย บ า ง ๆ
ที่ มั น ถู ก ห ล่ อ ห ล อ ม ขึ้ น จ า ก ค ว า ม รู้ สึ ก
ทั้ ง ค ว า ม อ า ท ร
ห่ ว ง ใ ย
ห่ ว ง ห า
......คิ ด ถึ ง .......

วันอังคารที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ความหมายดอกไม้ ตอน 3

ดอกมะลิ
ดอกไม้ที่เป็นตัวแทนความบริสุทธิ์ ผุดผ่อง และอ่อนโยน มะลิ แทนความหมาย "เธอคือผู้ที่ฉันสุดรักสุดบูชา" หรือ "เธอคือดอกฟ้าผู้สง่างามและสูงส่ง"
กล้วยไม้
เป็นดอกไม้ที่ไว้บอกภาษารักว่า "ฉันไม่อาจห้ามใจให้คิดถึงเธอได้"
ดอกหญ้า
คือดอกไม้ที่ใช้สื่อความรักที่เปี่ยมด้วยอิสระ แทนความว่า "ฉันรักเธอ แต่ขอเธออย่าผูกมัดฉันเลยนะคนดี"
ดอกบัว
เป็นดอกไม้แทนความสงบและความบริสุทธิ์ใจ จึงเป็น "รักด้วยความศรัทธาและชื่นชม"
แกลดิโอลัส
เป็นดอกไม้ที่สมควรส่งให้สาวที่เข้มแข็ง และมีความมั่นใจ เพราะแทนคำว่า "เธอช่างเป็นสาวมั่นจริงๆนะ" และยังเหมาะที่จะใช้เป็นดอกไม้แสดงความยินดี แทนคำว่า "ยินดีด้วยสำหรับความสำเร็จ ครั้งนี้"
ทานตะวัน
ดอกไม้ที่แทนสัญญลักษณ์ของความเชื่อมั่น ความมั่นคง รักเดียวใจเดียว และมีนัยถึงศิลปะที่งดงาม ถ้าได้รับดอกทานตะวันเหมือนได้รับสารว่า "แม้เธอจะเย่อหยิ่งเพียงไร แต่สักวันฉันจะชนะใจเธอ" และยังหมายถึง "รักของฉันมั่นคงและภักดีต่อเธอเสมอ ดุจดั่งทานตะวันที่ไม่เคยหันมองผู้ใดนอกจากดวงอาทิตย์"
แดฟโฟดิล
เป็นดอกไม้ที่เหมาะสำหรับความรักของเพื่อนแท้ คนรู้ใจ เพราะส่งแดฟโฟดิลเหมือนบอกว่า "น้ำใจไมตรี และความเอื้ออาทรของเธอ สมแลัวกับที่เป็นเพื่อนรักที่แสนดีของฉัน"
ซ่อนกลิ่นดอกไม้สำหรับคนที่มีรักซ้อนซ่อนใจ ไม่อาจเปิดเผย "ฉันแอบรักเธออยู่นะ" หรือ "ฉันหยิ่งเกินกว่าจะเอ่ยปากบอกรักกับเธอก่อน"
Lilac
ดอกไม้สำหรับการส่งให้กับความรักครั้งแรก
ดอกไม้ในหัวใจ - Flower of Love

ข้อความของหัวใจส่งผ่านได้ด้วยดอกไม้ แค่กุหลาบสีต่างๆ กัน ก็มีความหมายที่แตกต่างกันแล้วกุหลาบ> ความรักที่แสนสุข กุหลาบสีแดง> ฉันรักเธอเข้าแล้ว กุหลาบสีชมพู> เธอรักใครหรือยังกุหลาบขาว> เธอมีค่าสำหรับฉัน กุหลาบไม่มีหนาม> สำหรับความรักครั้งแรก กุหลาบตูม> สารภาพความรัก กุหลาบสีแดงกับสีขาว> เป็นหนึ่งเดียว กุหลาบสีเหลือง> อิจฉานะจะบอกให้กุหลาบป่า> จริงใจกล้วยไม้> อย่ามองฉันต่ำต้อยดอกส้มที่กำลังบาน> ความรักที่บริสุทธิ์เบญจมาศสีแดง> ฉันรักเธอ เดซี่> ใสซื่อบริสุทธิ์ ความรักภักดีเฟิร์น> ข้อผูกมัดทางความรักอย่างลับๆฟอร์เก็ตมีน็อต> ความรักที่บริสุทธิ์ทิวลิป> ความรักที่สมบูรณ์แบบลิลลี่> บริสุทธิ์ ความภูมิใจ ความมั่งคั่งเบญจมาศ> ให้อภัยฉันเถิดคาร์เนชั่นสีแดง> หัวใจช้ำๆคาร์เนชั่นสีขาว> บริสุทธิ์ใจต่อเธอบัวและพิกุล> รักด้วยความเคารพพุดซ้อนและรัก> รักข้างเดียว มะลิ> ขอเป็นเพื่อนเท่านั้นนะดอกป๊อปปี้สีเหลือง> ความมั่งคั่ง ความสำเร็จ เรื่องจาก Forward Mail

Samesung Galaxy S

ข้อมูลทั่วไป Samsung Galaxy S - ซัมซุง Galaxy S
เปิดตัวครั้งแรก 25 มีนาคม 2010 (สยามโฟนฯ)
ออกวางจำหน่าย ไตรมาสที่ 2 ปี 2010 (มิถุนายน 53)
ราคามือถือ (เปิดตัว) 21,400 บาท (มิถุนายน 53)*ราคาของเครื่องหน่วยความจำ 16 GB
ข้อมูลตัวเครื่อง (Spec)
ระบบ Quadband (GSM 850/900/1800/1900 MHz)- UMTS 900/1900/2100 MHz, - HSDPA 7.2 Mbps, HSUPA 5.76 Mbps
จอสัมผัส Super AMOLED 16.7 ล้านสี - 800 x 480 พิกเซล (4")- ระบบหมุนภาพอัตโนมัติ (Accelerometer sensor) - ระบบเปิด/ปิดหน้าจออัตโนมัติขณะสนทนา (Proximity Sensor)- Ambient light sensor : ปรับแสงสว่างของไฟหน้าจออัตโนมัติ - ระบบสัมผัสแบบ TouchWiz UI 3.0
เสียงเรียกเข้า MP3, Polyphonic- ระบบสั่น (Vibration in Phone)
ระบบปฏิบัติการ : Android™ 2.1 Eclair
หน่วยประมวลผล 1 GHz (Processor)- หน่วยความจำ 8 GB / 16 GB (ตัวเครื่อง)- การ์ดหน่วยความจำ microSD - สูงสุด 32 GB

ระบบเชื่อมต่อ (Connectivity)
ส่งผ่านข้อมูล (Data Transfer)- WiFi 802.11b/g, WLAN (Wireless LAN)- บลูทูธ Bluetooth™ v3.0, micro-USB v2.0 - รองรับชุดหูฟังสเตอริโอ (A2DP Bluetooth™ Stereo)- AllShare สำหรับเชื่อมต่อ Samsung Galaxy S เข้ากับเครื่องเล่นมีเดียอื่นๆ์ ผ่านระบบ Wi-Fi
ใช้งานอินเตอร์เน็ต HTML/WAP 2.0 Browser- รองรับ RSS Reader
รับ-ส่งข้อความ (Messaging)- อีเมล์ Email, MMS, SMS ผ่าน 3G-HSDPA, EDGE, GPRS - ข้อความแชท (Instant Messaging)
จุดเด่น (Feature)
ระบบดาวเทียม ค้นหาตำแหน่ง (Build-In A-GPS navigation) - รองรับแผนที่ Google Maps - เข็มทิศดิจิตอล (Digital compass)
กล้องดิจิตอล 5 ล้านพิกเซล (Digital camera)- ขนาดภาพสูงสุด 2560x1920 พิกเซล (Image Size)- ปรับภาพอัตโนมัติ (Autofocus)- โหมดถ่ายภาพระยะใกล้ (Macro mode)- ค้นหาใบหน้าอัตโนมัติ (Face Detection)- ซูมดิจิตอล (Digital zoom) - โหมดถ่ายรูป : ชอทเดียว, ชอทต่อเนื่อง, พานอราม่า, สไมล์ชอท, ถ่ายตัวเอง(กล้องหน้า), โหมดปรับหน้าใส, โหมดวินเทจ, โหมดแอด-มี, โหมดแอ็กชั่น,โหมดการ์ตูน- โหมดซีน : รูปบุคคล, ทิวทัศน์, กลางคืน, กีฬา, ปาร์ตี้หรือในร่ม, ชายหาดหรือหิมะ, พระอาทิตย์ตก, พระอาทิตย์ขึ้น, สีสันของฤดูใบไม้ร่วง, ดอกไม้ไฟ, ตัวอักษร, แสงเทียน และ แสงพื้นหลัง (ถ่ายย้อนแสง)- ปริมาณการรับแสง -1.5 ถึง +1.5ตั้งเวลาถ่ายภาพอัตโนมัติ 2, 5, 10 วินาที- สมดุลสีขาว : อัตโนมัติ, แสงจ้า, แสงสว่างน้อย, หลอดไส้, หลอดไฟนีออน- เอฟเฟ็คหรือโทนสี : ขาว/ดำ, โทนสีน้ำตาลแดง, เนกาทีฟ- เครื่องวัดแสง : ปกติ, เน้นตรงลาง และ ตำแหน่ง- ระบบป้องกันภาพสั่นไหว และ ระบบตรวจจับการกระพริบตา- คุณภาพ : ดีที่สุด, ดี, ปกติ และ พื้นฐาน- WRD การเคลียร์ภาพแสงพื้นหลังให้สม่ำเสมอ- ปรับแต่งความเข้ม, ระดับสี และ ความคมชัดได้อย่างละ 5 ระดับ (-2 ถึง +2)- แนบตำแหน่งบนแผนที่ไปกับภาพถ่าย (Geo-tagging)- เสียงกดชัตเตอร์ เปลี่ยนได้ 3 เสียง และ ปิดเสียง
กล้องตัวที่สอง VGA รองรับ Video Call สนทนาแบบเห็นภาพ
บันทึกวีดีโอ ภาพเคลื่อนไหว (Video recording) - ความละเอียด 1280 x 720 พิกเซล, 30 เฟรมต่อวินาที- ความละเอียด 720 x 480 พิกเซล, 30 เฟรมต่อวินาที- ความละเอียด 640 x 480 พิกเซล, 30 เฟรมต่อวินาที- ความละเอียด 320 x 240 พิกเซล, 30 เฟรมต่อวินาที- ความละเอียด 176 x 144 พิกเซล, 30 เฟรมต่อวินาที- โหมดการบันทึก : ปกติ, จำกัดเวลาเพื่อส่งข้อความ MMS- ปริมาณการรับแสง -2 ถึง +2- โหมดปรับแสงสำหรับถ่ายภาพกลางแจ้ง- ตั้งเวลาบันทึกวีดีโออัตโนมัติ 2, 5, 10 วินาที- สมดุลสีขาว : อัตโนมัติ, แสงจ้า, แสงสว่างน้อย, หลอดไส้, หลอดไฟนีออน- เอฟเฟ็คหรือโทนสี : ขาว/ดำ, โทนสีน้ำตาลแดง, เนกาทีฟ- คุณภาพ : ดี, ปกติ และ พื้นฐาน- ปรับแต่งความเข้ม, ระดับสี และ ความคมชัดได้อย่างละ 5 ระดับ (-2 ถึง +2)
เครื่องเล่นวีดีโอ (Video Player) - รองรับไฟล์ Code:mpeg4, H.264, H.263, H.263, Sorenson, Divx/Xvid, VC-1, Format 3gp (mp4), WMV(asf), AVI(divx), MKV, XMF
เครื่องเล่นเพลง (Music Player) - รองรับไฟล์ MP3, AAC, AAC+, eAAC+, WMA, OGG, AMR-NB, WAV, MID, AC3, IMY, FLAC, XMF
วิทยุ FM Radio - RDS
ช่องเสียบชุดหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร
บันทึกเสียง, โทรออกด้วยเสียง (Voice Control)
แฮนด์ฟรีในตัว (Build-in Handsfree)
ThinkFree Office สำหรับอ่านและแก้ไขไฟล์ Word, Excel, PowerPoint
ปฎิทิน, เครื่องคิดเลข, นาฬิกาปลุก, นาฬิกาโลก, จับเวลา, นับถอยหลัง, จดบันทึก, โปรแกรมรายงานสภาพอากาศ, รายงานข่าว, เช็คหุ้น ฯลฯ
Flight mode : ใช้งานเครื่องโดยไม่เปิดสัญญาณโทรศัพท์
ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นเพิ่มเติม (Android market)
การใช้งานของแบตเตอรี่
แบตเตอรี่มาตรฐาน Li-Ion 1,500 mAh (Standard Battery)
เปิดรอรับสาย - ชั่วโมง (Standby Time)
สนทนาต่อเนื่อง - นาที (Talk Time)

Samesung WAVE


ระบบ Quadband (GSM 850/900/1800/1900 MHz)- WCDMA 900/2100 MHz
จอสัมผัส Super AMOLED WVGA - 800x480 พิกเซล (3.3") - ระบบสัมผัสแบบ TouchWiz 3.0 UI พร้อม Widget- ระบบหมุนภาพอัตโนมัติ (Accelerometer sensor) - ระบบเปิด/ปิดหน้าจออัตโนมัติขณะสนทนา (Proximity Sensor)- ระบบตรวจจับคลื่นแม่เหล็ก (GeoMagnetic Sensor)- ระบบ Voice และ Motion UI
เสียงเรียกเข้า MP3, Polyphonic- ระบบสั่น (Vibration in Phone)
ระบบปฏิบัติการ : Bada ™ - CPU : 1 GHz Application Processor
หน่วยความจำ 2 GB / 8 GB (ตัวเครื่อง)- การ์ดหน่วยความจำ microSD 2 GB - สูงสุด 32 GB

ระบบเชื่อมต่อ (Connectivity)
ส่งผ่านข้อมูล (Data Transfer)- WiFi 802.11b/g, WLAN (Wireless LAN)- บลูทูธ Bluetooth™ v3.0, USB v2.0 - รองรับถ่ายโอนข้อมูลผ่าน ActiveSync®
ใช้งานอินเตอร์เน็ต xHTML/WAP 2.0 Browser- รองรับ Dolfin Browser 2.0
รับ-ส่งข้อความ (Messaging)- อีเมล์ Email, MMS, SMS ผ่าน 3G-HSDPA, EDGE, GPRS

จุดเด่น (Feature)
ระบบดาวเทียม ค้นหาตำแหน่ง (Build-In A-GPS navigation)- ระบบนำทาง 3 มิติ (On/off Board Navigation)
กล้องดิจิตอล 5 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช (Digital camera)- ขนาดภาพสูงสุด 2560x1920 พิกเซล (Image Size) - โหมดปรับภาพอัตโนมัติ (Autofocus)- โหมดตรวจจับใบหน้า (Face Detection)- โหมดถ่ายภาพ Lomo Shot, Vintage Shot, Beauty Shot- ตรวจจับการกระพริบตา (Blink Detection)- ตรวจจับรอยยิ้ม (Smile Detection)- โหมดถ่ายภาพพาโนราม่า (Panorama)- แนบตำแหน่งบนแผนที่ไปกับภาพถ่าย (Geo-tagging) - โปรแกรมตกแต่งรูปภาพ (Image Editor)- สั่งพิมพ์ภาพโดยตรง (PictBridge)
บันทึกวีดีโอ ภาพเคลื่อนไหว (Video recording) - ความละเอียด 1280 x 720 พิกเซล (HD)
เครื่องเล่นวีดีโอ MPEG4, H.263, H.264, WMV, DivX, XviD- ระบบเสียง 5.1ch Mobile Theater
โปรแกรมตัดต่อวิดีโอ (Video Editor)
เครื่องเล่นเพลง (Music Player)
โปรแกรมค้นหาข้อมูลเพลง (Music Recognition)
วิทยุ FM radio
ช่องเสียบชุดหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร
คำสั่งเสียง, บันทึกเสียง (Voice function)
แฮนด์ฟรีในตัว (Build-in Handsfree)
ใช้งานเครื่องโดยไม่เปิดสัญญาณโทรศัพท์ (Offline mode)
การใช้งานของแบตเตอรี่
แบตเตอรี่มาตรฐาน Li-Ion 1,500 mAh (Standard Battery)
เปิดรอรับสาย - ชั่วโมง (Standby Time)
สนทนาต่อเนื่อง - นาที (Talk Time)

วันเสาร์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ดอกไม้ ตอน 2

คาร์เนชั่น
คาร์เนชั่น สีแดง : เป็นดอกไม้ที่สื่อว่า "เห็นใจในความรักของฉันที่มีต่อเธอบ้าง" เป็นลูกออดอ้อนให้ใจอ่อน สีชมพูหวาน : เป็นดอกไม้ที่สื่อว่า "ความรักของฉันกำลังจะผลิบาน โปรดถนอมหัวใจรักฉันด้วย" คาร์เนชั่นลาย : ดอกไม้สำหรับปฏิเสธใครที่มาตามตื้อ ต้องรีบส่งไปเพราะมันหมายถึง "ไม่ได้คิดอะไรด้วยเลย" คาร์เนชั่นที่ถูกดึงกลีบดอกออกไป : เป็นดอกไม้สำหรับการปฏิเสธความรักโดยสิ้นเชิง ประมาณว่า "ฉันไม่เคยคิดรักเธอเลย"


ทิวลิปเป็นดอกไม้ที่หมายถึงการตกหลุมรักหัวปักหัวปำ ความรักที่ฉาบฉวยและจึดจางอย่างรวดเร็วทิวลิปสีแดง : ดอกไม้ที่สื่อว่า "อยากให้โลกรู้ว่าฉันรักเธอ" ทิวลิปสีเหลือง : ดอกไม้ที่สื่อว่า มีหางเสียงเศร้าๆ ว่า "ฉันหมดหวังในรักเธอแล้วหรือไร" ทิวลิปหลากสีในช่อเดียวกัน : ดอกไม้ที่หมายความว่า "ดวงตาแสนสวยของเธอทำให้ฉันคลั่งไคล้"

ดอกไม้ ตอน 1

คุณรู้หรือไม่ว่าดอกไม้แทบทุกชนิดมีค่ามีความหมายในตัวเอง เราจึงได้นำความหมายดีๆ ของดอกไม้ที่นิยมมอบให้กัน มาฝาก ไม่แน่นะเราอาจจะได้ไอเดียเก๋ๆ หาดอกไม้ที่ถูกใจคู่รัก และมีความหมายในความรักของคุณและเขาก็ได้ เพราะความในใจบางอย่างที่แฝงมากับดอกไม้หนึ่งช่อที่คุณจะมอบให้กับคนพิเศษ ซึ่งแต่ละดอกในหนึ่งช่อดอกไม้นั้น หากคุณตั้งใจที่จะเลือกสรรเพื่อสื่อความในใจทั้งหมดที่มีอยู่ ดอกไม้แต่ละดอกอาจสื่อได้ดีกว่าคำพูดล้านคำ หรือคำพูดบางคำที่คุณอยากจะบอกแต่ยากที่จะพูดให้ดอกไม้บอกแทนก็ได้…
ความหมายของดอกไม้ชนิดต่างๆ

++ กุหลาบ
กุหลาบแดงและขาวรวมกัน : ดอกไม้สำหรับสื่อความหมายให้รู้ว่า “สองเราเป็นหนึ่งเดียวกัน”
กุหลาบสีชมพู : ดอกไม้สำหรับความงดงามและความอ่อนโยน
กุหลาบสีเหลือง : เป็นดอกไม้ที่บอกเป็นนัยว่า “ขอเป็นชู้ทางใจ” หรือ หมายถึงความสุข สนุกสนาน ร่าเริง
กุหลาบสีส้ม : ดอกไม้เพื่อบอกความในใจถึงความรักและสิ่งที่ผ่านมา
กุหลาบแดงเข้ม (สีเหมือนไวน์แดง) : แทนคำว่า “เธอช่างสวยเหลือเกิน”
กุหลาบสีขาว : ดอกไม้สำหรับบอกว่า “ฉันรักเธอด้วยใจบริสุทธิ์ ไม่หวังสิ่งใดตอบแทน”
กุหลาบตูมที่มีทั้งใบและหนาม : เป็นดอกไม้ที่บอกให้รู้ว่า “แม้ฉันจะวิตกอยู่บ้าง แต่รู้ว่าเธอคงไม่ปฎิเสธ”
กุหลาบตูมที่ริดใบทิ้งหมด : ดอกไม้ที่แสดงให้เห็นว่าผู้ให้รู้สึกทุกสิ่งทุกอย่าน่ากลัวไปหมด
กุหลาบตูมที่ริดหนามทิ้งหมด : ดอกไม้ที่แสดงให้เห็นถึงความหวังที่มีอย่างเปี่ยมล้น
กุหลาบตูมสีแดง : ดอกไม้ที่แสดงให้เห็นถึงความรักที่ไร้เดียงสา “รักของฉันเพิ่งแรกแย้ม และอ่อนต่อโลก”
กุหลาบตูมสีขาว : ดอกไม้ที่แสดงถึงความมีเสน่ห์น่าหลงใหล ไร้เดียงสาในเรื่องความรัก
กุหลาบบานหนึ่งดอก และกุหลาบตูม 2 ดอก : เป็นดอกไม้ที่บอกว่า “นี่คือความรักที่ฉันแอบซ่อนไว้”
กุหลาบบานสีแดง : ดอกไม้สำหรับบอกให้รู้ว่า “ฉันรักเธอเข้าแล้ว”
กุหลาบสีแดงที่โรยแล้ว : เป็นดอกไม้ที่เขาอยากจะบอกให้คุณรู้ว่า “ความรักของเรานั้นจบลงแล้ว”
กุหลาบสีขาวที่โรยแล้ว : ดอกไม้สำหรับแทนความหมาย “เสน่ห์ของเธอมันจืดจางลงแล้ว”
กุหลาบไร้หนาม : เป็นดอกไม้ที่สื่อให้รู้ว่า “เธอช่างมีเสน่ห์น่าหลงไหลแม้ยามแรกพบ”
กุหลาบดอกเดียว : ดอกไม้สำหรับแทนความหมาย “รักฉันแม้เรียบง่าย แต่ก็มั่นคงกับเธอผู้เดียว”

วันศุกร์ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2553

มงคลทั้ง 21 ส่วน 2 ที่ถูกต้อง

( มงคลข้อที่ ๑๑ )มาตาปิตุอุปัฏฐานัง การบำรุงบิดามารดา
( มงคลข้อที่ ๑๒ และ ๑๓ )ปุตตะทารัสสะ สังคะโหการสงเคราะห์บุตร การสงเคราะห์ภรรยา
( มงคลข้อที่ ๑๔ )อะนากุลา จะ กัมมันตา การเป็นผู้ทำการงาน ไม่คั่งค้างเอตัมมังคะละมุตตะมัง ฯ สี่ข้อนี้ เป็นมงคลอันสูงสุด
( มงคลข้อที่ ๑๕ และ ๑๖ )ทานัญจะ ธัมมะจะริยา จะ การให้ทาน การประพฤติธรรม คือ กุศลกรรมบทสิบ( มงคลข้อที่ ๑๗ )ญาตะกานัญจะ สังคะโห การสงเคราะห์ญาติทั้งหลาย
( มงคลข้อที่ ๑๘ )อะนะวัชชานิ กัมมานิ การทำงานที่ปราศจากโทษเอตัมมังคะละมุตตะมัง ฯ สี่ข้อนี้ เป็นมงคลอันสูงสุด
( มงคลข้อที่ ๑๙ )อาระตี วิระตี ปาปา การงดเ้ว้นจากความชั่ว
( มงคลข้อที่ ๒๐ )มัชชะปานา จะ สัญญะโม การละเว้นจากการดื่มน้ำเมา
( มงคลข้อที่ ๒๑ )อัปปะมาโท จะ ธัมเมสุ การไม่ประมาทในธรรมทั้งหลายเอตัมมังคะละมุตตะมัง ฯ สามข้อนี้เป็นมงคลอันสูงสุด

มงคลทั้ง 21 ส่วน 2

ประการที่ ๑๑ คือการแต่งตั้งชายหรือหญิงผู้เป็นนักเลงโต ใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย เมื่อได้ตำแหน่งที่สำคัญๆ ในการบริหาร ก็เอาอำนาจมาข่มขู่ผู้ใต้บังคับบัญชา นี่เป็นประการที่สำคัญ เมื่อคนดีมีอำนาจ คนพาลจะถูกข่ม เมื่อคนพาลมีอำนาจ คนดีก็จะถูกข่ม ไม่กล้าสร้างสรรค์สิ่งที่ดีให้สังคม อำนาจถ้าอยู่ในมือของคนพาล ก็จะนำความเดือดร้อนมาสู่สังคม และประเทศชาติได้ ดังนั้นขอให้ตระหนักถึงความสำคัญในข้อนี้ให้ดี

ทางแห่งความเสื่อมประการสุดท้าย ที่พระพุทธองค์ตรัสไว้ คือ ผู้เกิดในสกุลกษัตริย์มีโภคสมบัติน้อย แต่มีความมักใหญ่ใฝ่สูง ปรารถนาจะเป็นพระราชา ก็เป็นทางแห่งความเสื่อมได้เช่นกัน เพราะความเป็นพระราชานั้น ไม่ใช่สิ่งที่จะได้มาง่ายๆ แต่เกิดขึ้นมาด้วยอานุภาพของบุญที่สั่งสมไว้ดีแล้วเท่านั้น

ทางแห่งความเสื่อมทั้ง ๑๒ อย่าง ที่พระพุทธองค์ตรัสสอนนี้ ผู้เจริญย่อมไม่ประพฤติ หรือดำเนินชีวิตบนหนทางอย่างนั้น แต่จะทำแต่สิ่งที่เป็นบุญบารมี เป็นคุณงามความดี อันจะเป็นประโยชน์สุขต่อตนเองทั้งในภพนี้ และภพหน้า

บนเส้นทางชีวิตของพวกเราทั้งหลาย ทุกคนต่างปรารถนา ความสุขความสมหวัง และต้องการยืนอยู่บนหนทางแห่งความเจริญตลอดกาล ดังนั้น ขอให้ทุกคนดำรงตนอยู่ในพุทธโอวาทอย่างไม่ประมาท โดยไม่เดินไปบนทางแห่งความเสื่อม หมั่นประพฤติสิ่งที่ดีงาม สิ่งใดที่พระพุทธองค์ตรัสว่าเป็นความเสื่อม เราก็ไม่ประพฤติ หากทำเช่นนี้ ชีวิตของเราจะมีแต่ความสุขความเจริญ ตั้งแต่ปัจจุบันชาตินี้ตลอดไปทุกภพทุกชาติ เราจะได้ดำเนินชีวิตอยู่บนเส้นทางการสร้างบารมี จนถึงที่สุดแห่งธรรมกันทุกคน

วันพฤหัสบดีที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2553

มงคลทั้ง 21 ส่วน 1

พระผู้มีพระภาคเจ้า ตรัสบอกว่า
( มงคลข้อที่ ๑ )อะเสวะนา จะ พาลานัง การไม่คบคนพาลทั้งหลาย
( มงคลข้อที่ ๒ )ปัณฑิตานัญจะ เสวะนา การคบแต่บัณฑิตทั้งหลาย
( มงคลข้อที่ ๓ )ปูชา จะ ปูชะนียานังการบูชา คนที่ควรบูชาเอตัมมังคะละมุตตะมัง ฯ สามข้อนี้ เป็นมงคลอันสูงสุด
( มงคลข้อที่ ๔ )ปะฏิรูปะเทสะวาโส จะ การอยู่ในประเทศอันควร
( มงคลข้อที่ ๕ )ปุเพ จะ กะตะปุญญะตา ความเป็นผู้มีบุญอันกระทำไว้แล้วในกาลก่อน
( มงคลข้อที่ ๖ )อัตตะสัมมาปะณิธิ จะ การตั้งตนไว้แล้ว โดยชอบเอตัมมังคะละมุตตะมัง ฯ สามข้อนี้ เป็นมงคลอันสูงสุด
( มงคลข้อที่ ๗ และข้อที่ ๘ )พาหุสัจจัญจะ สิปปัญจะ ความเป็นผู้เรียนรู้มาก การมีศิลปะวิทยา
( มงคลข้อที่ ๙ )วินะโย จะ สุสิกขิโต ความเป็นผู้มีระเบียบวินัยดี
( มงคลข้อที่ ๑๐ )สุภาสิตา จะ ยา วาจาการพูดแต่วาจาที่ดีเอตัมมังคะละมุตตะมัง ฯ สี่ข้อนี้ เป็นมงคลอันสูงสุด

วันอังคารที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ทางแห่งความเสื่อม ส่วน 2

ทางแห่งความเสื่อมประการที่ ๖ นั้นคือ เป็นคนมีทรัพย์สินเงินทองมากมาย แต่เป็นคนตระหนี่ มีของกินก็กินคนเดียว มีของใช้ก็ใช้คนเดียว ไม่รู้จักการเสียสละ ดวงตระหนี่ครอบงำจิตใจอยู่ตลอดเวลา เมื่อไม่รู้จักการให้แบ่งปัน ก็ย่อมจะไม่เป็นที่รักของใครๆ ไม่มีรั้วรอบๆ กายเลย เป็นเหมือนต้นไม้ที่ขึ้นอยู่โดดเดี่ยวตามลำพัง ยามเมื่อมีลมพัดกระหน่ำ ย่อมจะประสบกับความหายนะได้ง่าย เพราะรอบข้างไม่มีต้นไม้บริวารที่จะช่วยกันต้านแรงลม อยู่อย่างโดดเดี่ยว ย่อมจะอยู่ได้ไม่นาน นี่เป็นความเสื่อมเหมือนกัน

ทางแห่งความเสื่อมประการที่ ๗ คือ เป็นคนที่เย่อหยิ่ง เพราะชาติตระกูล และทรัพย์สมบัติ ทั้งดูหมิ่นญาติของตนเอง ผู้ที่ประพฤติตนเช่นนี้ แสดงว่า เป็นคนที่หลงตนเอง จนทำให้เป็นผู้ที่ขาดความเคารพ ไม่รู้จักควรไม่ควร จะทำให้ชีวิตผิดพลาดตกลงไปในหนทางแห่งความเสื่อมได้ง่าย

ประการที่ ๘ ที่พระพุทธองค์ตรัสไว้คือ คนเป็นนักเที่ยวผู้หญิง นักดื่มสุรา นักเล่นการพนัน ผลาญทรัพย์สมบัติให้หมดสิ้นไปถ่ายเดียว การทำเช่นนี้ทำให้เป็นผู้ที่ไม่รู้จักการใช้จ่ายทรัพย์ให้เป็นประโยชน์ต่อตนเองทั้งในภพนี้ และภพหน้า การใช้ทรัพย์ให้เป็นประโยชน์นั้น เมื่อใช้ไปแล้ว จะต้องเกิดเป็นบุญกุศลเป็นการเปลี่ยนโลกียทรัพย์ให้เป็นอริยทรัพย์ ทำได้อย่างนี้จึงชื่อว่าเป็นผู้ใช้ทรัพย์เป็น ส่วนใครที่นำทรัพย์ตนเองไปทำในสิ่งที่ก่อให้เกิดบาปอกุศล การทำเช่นนั้นย่อมไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ สุขใดๆ พระพุทธองค์จึงตรัสว่า เป็นทางแห่งความเสื่อม

ทางแห่งความเสื่อมประการที่ ๙ คือ คนไม่พอใจเฉพาะภรรยาของตนเอง ชอบคบชู้ภรรยาของคนอื่น หรือฝ่ายหญิง ก็ไม่เคารพสามีเสมือนเทวดา เป็นคนไม่รู้จักพอ ก่อให้เกิดภัย ทั้งทางร่างกาย และสังคมรอบด้าน ก่อให้เกิดความหวาดระแวง ระหองระแหง ระหว่างครอบครัวและสังคม นี่เป็นทางแห่งความเสื่อมของชีวิตอีกทางหนึ่ง

ประการที่ ๑๐ คือ การที่ชายแก่ได้หญิงสาวเป็นภรรยา ต้องเสียเวลาติดตามดูความประพฤติของนาง ห่วงภรรยาจนนอนไม่หลับ เมื่อเป็นอย่างนี้ทำให้สุขภาพทรุดโทรมเพราะกังวลมากเกินไป ก็เป็นทางแห่งความเสื่อม

ประการที่ ๑๑ คือการแต่งตั้งชายหรือหญิงผู้เป็นนักเลงโต ใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย เมื่อได้ตำแหน่งที่สำคัญๆ ในการบริหาร ก็เอาอำนาจมาข่มขู่ผู้ใต้บังคับบัญชา นี่เป็นประการที่สำคัญ เมื่อคนดีมีอำนาจ คนพาลจะถูกข่ม เมื่อคนพาลมีอำนาจ คนดีก็จะถูกข่ม ไม่กล้าสร้างสรรค์สิ่งที่ดีให้สังคม อำนาจถ้าอยู่ในมือของคนพาล ก็จะนำความเดือดร้อนมาสู่สังคม และประเทศชาติได้ ดังนั้นขอให้ตระหนักถึงความสำคัญในข้อนี้ให้ดี

ทางแห่งความเสื่อมประการสุดท้าย ที่พระพุทธองค์ตรัสไว้ คือ ผู้เกิดในสกุลกษัตริย์มีโภคสมบัติน้อย แต่มีความมักใหญ่ใฝ่สูง ปรารถนาจะเป็นพระราชา ก็เป็นทางแห่งความเสื่อมได้เช่นกัน เพราะความเป็นพระราชานั้น ไม่ใช่สิ่งที่จะได้มาง่ายๆ แต่เกิดขึ้นมาด้วยอานุภาพของบุญที่สั่งสมไว้ดีแล้วเท่านั้น
ทางแห่งความเสื่อมทั้ง ๑๒ อย่าง ที่พระพุทธองค์ตรัสสอนนี้ ผู้เจริญย่อมไม่ประพฤติ หรือดำเนินชีวิตบนหนทางอย่างนั้น แต่จะทำแต่สิ่งที่เป็นบุญบารมี เป็นคุณงามความดี อันจะเป็นประโยชน์สุขต่อตนเองทั้งในภพนี้ และภพหน้า

วันจันทร์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ทางแห่งความเสื่อม ส่วน 1

พระพุทธองค์ทรงกล่าวว่า ผู้รู้ดีเป็นผู้เจริญ ผู้รู้ชั่วเป็นผู้ถึงความเสื่อม ผู้ใคร่ธรรมเป็นผู้เจริญ ผู้เกลียดชังธรรมเป็น ผู้เสื่อม ท่านหมายถึงว่า รู้สิ่งที่เป็นประโยชน์ เป็นความดีงาม และยังเป็นผู้รักการประพฤติในสิ่งที่ดีงามนั้นด้วย รู้ธรรม คือ รู้ตั้งแต่ข้อวัตรปฏิบัติ อันเป็นความดีงาม จนกระทั่งใจบริสุทธิ์หยุดนิ่ง รู้แจ้งเห็นจริงในธรรม มีดวงตาเห็นธรรม เป็นอันหนึ่งอันเดียวกับธรรมนั้นตลอดเวลา ทำให้เป็นผู้มีความเจริญรุ่งเรืองในชีวิต ผู้เกลียดชังธรรมมักจะประสบเหตุตรงกันข้าม คือ พบแต่ความเสื่อมเสียเสมอๆ เพราะไม่ประพฤติธรรมของพระอริยเจ้านั่นเอง นี่เป็นทางแห่งความเสื่อมข้อที่ ๑
ส่วนทางแห่งความเสื่อมประการที่ ๒ นั้น พระพุทธองค์ตรัสว่าคนที่รักอสัตบุรุษ ไม่รักสัตบุรุษ และชอบใจธรรมคำสอน ของอสัตบุรุษนั้น เป็นความเสื่อม ความหมายตรงนี้ หมายถึงการคบหาสมาคมกับอสัตบุรุษ พูดง่ายๆ อสัตบุรุษ ก็คือ คนพาล ใครคบคนพาล เชื่อคำสอน และทำตามคำสอนของคนพาล ก็มีแต่ความเสื่อมถ่ายเดียว

ทางแห่งความเสื่อมประการที่ ๓ คือ คนที่ชอบนอน ชอบคุย ไม่ขยัน เป็นคนเกียจคร้าน โกรธง่าย คนชอบนอนนั้น ได้ชื่อว่าเป็นผู้ที่ปล่อยเวลาให้สูญเปล่า เป็นอยู่ก็สักแต่ว่ามีชีวิต เป็นอยู่สักแต่ว่ามีลมหายใจเข้าออก ไม่ได้สงวนเวลาไว้เพื่อฝึกฝนตนเอง ไม่ได้สร้างบุญบารมี มักขุ่นมัวอยู่เสมอ เมื่อใจไม่มีคุณภาพ ก็ผลักดันสิ่งดีออกไป

ทางแห่งความเสื่อมประการที่ ๔ คือ เป็นคนที่มีความรู้ความสามารถ แต่ไม่สนใจเลี้ยงดูมารดาบิดาผู้แก่เฒ่า มีความรู้แต่ไม่มีคุณธรรม ไม่ระลึกถึงแม้ผู้มีพระคุณ ไม่มีความกตัญญูกตเวที ผู้ที่ไม่มีความกตัญญูกตเวที ไม่มีใครอยากคบค้าสมาคมหรือให้การสนับสนุน เพราะเหตุว่า พึงให้แผ่นดินหมดทั้งโลก ก็ไม่ทำให้คนอกตัญญูพอใจได้เลย คนอกตัญญู คือ ผู้มีใจคับแคบ ลืมบุญคุณคน แม้มีผู้ทำคุณประโยชน์มากมายเพียงใดให้ เหมือน ทิ้งก้อนกรวดลงทะเล ไม่มีผลอะไรเลย เมื่อเทียบกับความสูงแห่งคลื่น ใครที่ไม่สนใจบำรุงมารดาบิดาผู้มีพระคุณ ก็จัดเป็นทางแห่งความเสื่อม

ทางแห่งความเสื่อมประการที่ ๕ คือ คนที่ชอบหลอกลวงหรือโกหกสมณพราหมณ์ผู้ทรงศีล หรือโกหกหลอกลวงคนอื่น มีวาจาเป็นสอง เป็นผู้ต่อหน้าพูดอย่าง ลับหลังทำอีกอย่าง จิตใจไม่มั่นคง ทำให้เป็นผู้มีวาจาเชื่อถือไม่ได้ หากประพฤติตัวเช่นนี้กับผู้ทรงศีลผู้เป็นเนื้อนาบุญ ก็ยิ่งเป็นการสั่งสมบาปอกุศลให้กับตนเองเพิ่มขึ้น

วันเสาร์ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2553

"ความรัก"
ความรักไม่ต้องการแค่วันเดียว
ความรักไม่ต้องเกี่ยวกับวันไหน
ความรักไม่ต้องมีเวลาใด
ความรักไม่ต้องใช้ให้ใครชี้
ความรักไม่ต้องมีข้อวิจารณ์
ความรักไม่ต้องการการกดขี่
ความรักไม่ต้องให้ใครตราตี
ความรักไม่ต้องมีเส้นพรมแดน
ความรักไม่ต้องรอข้อพิสูจน์
ความรักไม่ต้องพูดอันแบบแผน
ความรักไม่ต้องการสิ่งตอบแทน (แต่ถ้าต่ำกว่าระดับ 3 ต้องการหัวใจแน่นอน)
ความรักไม่ต้องแค่นหัวใจคน
ความรักไม่ต้องการการเป็นต่อ
ความรักไม่ต้องรอขอเหตุผล (แค่มองด้วยความรู้สึก)
ความรักไม่ต้องย้ำความมีจน
ความรักไม่ต้องทนที่จะรัก
ความรักคือหัวใจให้แก่กัน
ความรักคือนิรันดร์มั่นสมัคร
ความรักคือศรัทธาสามิภักดิ์
ความรักคือความประจักษ์ในใจเรา
ความรักคือนิยายไร้นิยาม
ความรักคือความงามใช่ความเขลา
ความรักคือหมอกควันอันบางเบา
ความรักคือการเฝ้าเข้าใจกัน
ความรักคือสำเนียงเสียงปลอบปลุก
ความรักคือความทุกข์และสุขสัน
ความรักคือเสน่ห์หาสารพัน
ความรักคือความฝันอันตราตรู
ความรักคือศิลปะของหัวใจ
ความรักคือสายใยโยงใจอยู่
ความรักคือการให้ไม่หมายรู้
ความรักคือใจผู้รู้ค่ารัก


อ.เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์

วันศุกร์ที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2553

Guide to buy First Phone

อย่างแรกเลย เราจะต้องเตรียมเงินและกระเป๋าสตางค์ให้พร้อมและก็เดินหาร้านก่อน ( จะให้เทวดาเสกให้รึ ก็ไม่ใช่ หาร้านสิจ๊ะ ) ชอบร้านใหนก็เข้าร้านนั้นได้เลยครับ และเมื่อถึงร้านเราก็คงจะไม่รีรอที่จะเอ่ยปาก บอกคนขายว่า จะเอารุ่นอะไร ในที่นี้รุ่นที่ผมนำมาเสนอเป็น N95 นะครับ
Rem....ก่อนจะซื้อขาย ให้เรา ถามเงื่อนใขการรับประกันสินค้า เช่น เสียหรือพัง เปลี่ยนเครื่องภายในไม่เกินกี่วัน หรือ เวลาเสีย ไปเคลมหรือซ่อมที่ใหนอย่างไร ตกลงหรือคุยกันให้รู้เรื่องก่อนครับ จะได้ไม่มีปัญหา
สิ่งที่ควรจะตรวจสอบ และสังเกตุ ไม่ว่าจะก่อนหรือหลังจ่ายตัง และก่อนที่จะนำโทรศัพท์ออกจากร้าน สิ่งที่ควรจะสังเกตุมีดังต่อไปนี้ โดยให้แบ่งการดูการสังเกตออกเป็น 5 ส่วนหลักๆ นั่นก็คือ 1. ส่วนของกล่องบรรจุ 2. สภาพของตัวเครื่องหรือ HardWare โดยรวม 3. ส่วนของซอฟแวร์ 4. ของที่แถมมาในกล่อง 5. Voild ประกันของบริษัท
เรามาดูส่วนแรกกันเลย นั่นคือกล่อง
1. ส่วนของกล่องบรรจุ
1.สภาพภายนอกของกล่อง มันควรจะอยู่ในสภาพที่เรียบร้อย นั่นก็คือ - กล่องควรจะซีลมาอย่างดี -ไม่บุบๆ บี้ๆ หรือมีรอย ฉีกขาด( ถ้าข้างนอกเละ ข้างในจะไปเหลือเร่อ ) - ( บางบริษัท ) ตรงฝากล่องบรรจุอาจจะมีสติ๊กเกอร์ logo บริษัทแปะอยู่ ไม่ควรมีรอยฉีกขาดเช่นกัน
**ดังรูป กล่องควรจะอยู่ในสภาพที่เรียบร้อย ไม่บุบๆ บี้ๆ หรือฉีกขาด
**ดังรูป กล่องควรจะมีการซีลอย่างเรียบร้อย
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
2.เมื่อแกะกล่องออกมาแล้ว ตัวสินค้า ควรจะอยู่ในสภาพที่เรียบร้อยสวยงาม - ตัวเครื่อง แบต เมโมรี่ สายชาร์จ และอื่นๆ จะต้อง แยกชิ้นออกจากกัน - พวกสายชาร์จ สมอลทอร์ค สายดาต้า ควรจะอยู่ในสภาพมัดเอาใว้อย่างเรียบร้อย และแพคอยู่ในถุงที่บรรจุ และจัดเรียงอยู่ในกล่องอย่างเรียบร้อย - แบต กับ เมโมรี่การ์ด ก็เช่นกัน จะแยกชิ้นอยู่ในกล่องหรือถุงบรรจุ และวางอยู่ในกล่อง - สมุดคู่มือจะต้องมีครบ ( บางรุ่นจะแถมแผ่นซอฟแวร์มาด้วย ต้องดูให้ดีๆ ) และอยู่ในสภาพที่เรียบร้อย
**ของทุกชิ้นจะต้องอยู่ในสภาพเรียบร้อย อยู่ในกล่องอย่างเป็นระเบียบ ( ตรงข้อนี้ ระวังให้ดีๆ โดนมาเยอะเหมือนกัน บางทีพวก “คนหัวหมอ” เอาเครื่องมือสองมาบิ้ว หรือ บางทีเครื่องที่มีปัญหา มาย้อมขาย แต่คนทำเค้าอาจลืมเอาแบตหรือเมมออก”ไอประเภทเปิดเครื่องมาปุ๊บ ไปดูคลังภาพ รูปถ่ายใครก็ไม่รู้โผล่มาแบบนี้ น่ากลัว” อันนี้เจอได้บ่อย ระวังให้ดีๆ )
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
2. ส่วนของตัวเครื่องหรือ Hard Ware
สิ่งสำคัญ ที่ต้องสังเกตุให้ดี หลักๆ มีดังนี้
1.เริ่มแรก ควรจะหยิบเครื่องออกมาจากกล่อง และสังเกตให้ดีๆ ว่ามีอะไรผิดสังเกตหรือไม่ - จะต้องไม่มีริ้วรอย( ก็แหง ของมือ 1 ) - ดูซ้ายขวาหน้าหลัง และตามจุดต่างๆ ของตัวเครื่องให้ดีๆ ว่า มีอะไรที่แตกหักบ้าง - ถ้าเป็นเครื่องมือ 1 ฟีล์มติดหน้าจอ หรืออื่นๆ ที่แปะมากับจอ จะต้องอยู่นะครับ ดังรูปตัวอย่างที่เห็น ( สติ๊กเกอร์ Nseries สีดำ )
**สังเกตดูโดยรอบว่า มีรอยถลอก หรือหักหรือบิ่นบ้างหรือไม่ ตามตัวเครื่อง และฟีล์มหน้าจอจะต้องไม่มีรอยแกะมาก่อน
** จะด้านใหนๆ ก็ตาม สำรวจให้ดีๆ หละ อย่าให้คลาดสายตา
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
4. ขั้นตอนนี้ เป็นขั้นตอนที่สำคัญมากๆ ถึงมากที่สุด นั่นก็คือ การตรวจสอบหมายเลขตัวถังกับเมนบอร์ดว่าตรงกันหรือไม่ โดยให้คุณปฏิบัติดังนี้
ใส่แบตใส่ซิม แล้วลองกดปุ่ม *#06# และมันจะมีเลข EMI ปรากฏขึ้นมา ให้ปิดเครื่อง ถอดแบตออก และให้ปฏิบัติดังนี้
********นำเลขที่เห็นทั้งหมด นำมาเปรียบเทียบกันสามส่วน นั่นก็คือ ข้างกล่อง ใต้เครื่อง และหน้าจอที่ปรากฏ มันจะต้องเป็นเลขเดียวกัน ขอย้ำ เลขเดียวกัน ( ในข้อนี้ หากเลขไม่ตรงกันแม้แต่ 1 ใน 3 หรือ 2 ใน 3 ก็ตาม วางเหอะครับ ไม่ต้องต่อรองราคา ไม่ต้องตกลงซื้อขาย เพราะคุณมาซื้อเครื่องมือ 1 และเครื่องมือ 1 เลข EMI จะต้องตรงกันครับ ไม่ใช่ ตัวถังมาเลขนึง กล่องมาเลขนึง แบบนี้มันไม่ใช่ครับ ใครจะพูดอะไรไม่ต้องสนใจครับ ไม่ต้องซื้อครับ ดูร้านอื่น นั่นแสดงให้เห็นว่า เค้าอาจจะเอาเครื่องเก่าใช้แล้ว หรือเครื่องที่มีปัญหา มาหลอกขายครับ ระวังครับ ) EMI คืออะไร และสำคัญอย่างไร เชิญอ่านในนี้ครับ http://board.siamphone.com/viewtopic.php?t=12848
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
5. ตรวจสอบว่าเครื่องเราได้ผ่านการใช้งานมาแล้วหรือยัง ให้เรากด *#92702689# ( ตรวจ Life Time ) และดูเลขที่ปรากฏ มันควรจะเป็นเลข 0 หรือพูดง่ายๆ การใช้งาน 0 ชั่วโมง 0 นาที ( ก็เครื่องมือ 1 นิ ) แต่ถ้ามันจะผิดเพี้ยนจากนั้น เช่น 1-5 นาที อันนี้ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร บางทีเครื่องพวกนี้ บริษัทอาจจะเคยเทส หรือไม่ก็ อาจจะเคยเป็นเครื่องโชวในตู้ มาก่อน มันเลยมีเวลาปรากฏ แต่ถ้าอยากสบายใจก็ หาที่เป็น 0 น่าจะดีกว่า ( ชุดคำสั่งนี้ใช้ได้กับโทรศัพท์บางรุ่นนะครับ โดยบางรุ่นจะมีวิธีเช็คที่แตกต่างกันออกไปครับ )

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
6. ลองกดปุ่ม ทุกปุ่ม ที่ตัวเครื่อง ไม่ว่าจะปุ่มตัวเลข ปุ่มเข้าเมนู หรือปุ่มอื่นๆ ปุ่มเบาเสียงหรืออื่นๆ ลองให้หมด ดูว่า ใช้ได้ทุกปุ่มหรือไม่ ถ้าปุ่มกดไม่ติดหรือใช้ไม่ได้เปลี่ยนเครื่องเลยครับ ( จะเอาใว้ทำอะไรหละ ปุ่มยังกดไม่ติดเลย )
ลองกดดูมันทุกปุ่มเลย ว่าใช้งานได้หรือไม่
ดูให้ดีๆ นะว่า ไฟตามตัวปุ่มกดต่างๆ ยังคงติดดีอยู่หรือไม่ ถ้าไม่ติด เปลี่ยนเครื่องใหม่เลย
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
7. ให้คุณลองสังเกตุบนหน้าจอ( กรณีจอสี )ของคุณว่า มีสิ่งแปลกปลอมปรากฏหรือไม่ ดังเช่นในรูป ( ที่วงเอาใว้นั่นคือหน้าตา Death Pixel ) นั่นคือ Death Pixel หรือจุดตายสี คือพูดง่ายๆ จอมีปัญหานั่นเอง มันจะไม่แสดงสีสัน โดยมันจะปรากฏเป็นสีดำ หรือแดง หรือขาวไปเลยก็มี ซึ่งคุณต้องดู และเช็คจากตัวแทนจำหน่ายว่า มันจะให้เปลี่ยนเครื่องกรณีที่จุดดังกล่าวขึ้นกี่จุด( โนเกีย 4 จุดขึ้นไปศูนย์จะยอมให้เปลี่ยน “ถ้าผมจำไม่ผิดนะ” ) ผมคิดว่าหลายๆ คน คงไม่อยากเสียเงินเป็นหมื่นๆ แต่ได้จอเสียๆ มาใช้นะครับ ดูให้ดีๆ ด้วย

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
1. ลองใส่ซิมการ์ดดูว่า ใช้ได้หรือไม่ ซึ่งเมื่อใส่ซิมการ์ดไปแล้ว มันจะต้องขึ้นชื่อของระบบเครือข่าย และขีดสัญญาณ จะต้องขึ้น ( ในขั้นตอนนี้ ถ้าเป็นไปได้ ผมอยากแนะนำให้เอาซิมไปสัก 2 อัน เช่น Dtac,True ) เพราะผมก็เคยประสบปัญหาเช่น ใส่ ซิม GSM ได้ พอไปใส่ True ใส่ไม่ได้ ผมจึงอยากแนะนำให้ตัดไฟแต่ต้นลมดีกว่าครับ
Rem….กรณีที่ใส่ซิมแล้วขึ้นมาแบบนี้ ดังรูป หรือขึ้น Offline,Insert SIM Card หละก็ ถ้าลองใส่แล้วใส่อีกมันไม่ยอมอ่านซิม อันนี้วาง ดูเครื่องอื่นเลยครับ
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
3. ส่วนของซอฟแวร์ระบบ
1. ลองเข้าเมนูลองดูฟังค์ชั่นต่างๆ ลองเล่นๆ อะไรก็ได้ เช่น
-กดฟังเพลง ดูว่าลำโพงดังมั๊ย มีปัญหาอะไรหรือเปล่า ลองๆ ดูครับ
-ในกรณีที่โทรศัพท์มีกล้อง แนะนำว่า ให้เราลองถ่ายภาพดูด้วยนะครับ ว่ามีปัญหามั๊ย กล้องขึ้นฝ้าหรือไม่ หรือว่า ค้างหรือเปล่า อันนี้ลองกดแชะๆ เอาสัก 4-5 รูปพอเป็นพิธีครับ
-หากมีพวกอุปกรณ์เชื่อมต่อเช่น Bluetooth ( ทางที่ดี หากเรามากับเพื่อน แล้วเพื่อนมีโทรศัพท์ที่มี Bluetooth ด้วยยิ่งดี ให้คุณลองส่งไฟล์ ระหว่างเครื่องคุณและเพื่อนดูครับ ) ควรจะทดสอบด้วยครับ เพราะพวกโทรศัพท์รุ่นออฟชั่นเยอะๆ บางครั้งโอกาสซื้อมา เราอาจจะเจอแจ๊คพอต Bluetooth ขาดตั้งแต่ซื้อมาเลยก็มี ( เคยเจอมากับตัวครับ เพื่อนผม ตั้งแต่ซื้อมา บลูทูธ ใช้งานไม่ได้เลย ตั้งแต่วันแรกซื้อ มันก็มองโลกแง่ดีเหลือเกิน พอมารู้ทีหลัง ก็ตอนเครื่องหมดประกันแล้ว อนาถมั๊ย ต้องเสียเงินซ่อมเองอีกตะหาก )
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
2. ลองโทรออก และรับสายดู ( ซื้อโทรศัพท์นี่ ไม่ใช่เครื่องเล่น MP3 ) ลองดู เสียงดังฟังชัดสัญญาณขาดๆ หายๆ มั๊ย ถ้าไม่มีอะไรก็ผ่าน( ง่ายๆ เนอะ ) ในขณะที่เราลองรับสายนั้น ลองดูด้วยว่า ตัวเครื่องสั่นหรือไม่ กระดิ่งริงโทนดังหรือไม่ดัง ถ้าไม่ดังเปลี่ยนเครื่องเลยครับ
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
4. ของที่แถมมาในกล่อง
1.ตรวจสอบดูของแถมภายในกล่องว่า มีครบ และตรงรุ่นหรือไม่ อันนี้ ควรจะดูและตรวจสอบให้ดีๆ และมันก็มีความสำคัญเช่นกัน ที่ผมเคยประสบมา บางรุ่นจะแถมพวกอุปกรณ์พิเศษเช่นพวกหูฟังบลูทูธ หรือแท่นชาร์จแบบสแตนด์ บางครั้ง ของเหล่านี้ ( คนหัวหมอ ) มักจะชอบจับมแยกขาย อันนี้ ต้องช่างใจตัวเราเองครับว่า รับได้หรือไม่ เพราะบางอย่าง ถึงผมเอามาก็ไม่ได้ใช้นะครับ เช่นหูฟังบลูทูธ เนี่ย
สมมุติว่า - เครื่องราคาสัก 20,000บาท - หูฟังบลูทูธราคา 2,500บาท
แต่พ่อค้าเอาหูฟังเราไปแยกขาย แล้ว ขายเครื่องให้เราในราคา 18500บาท
เราลองมาชั่งใจดูครับว่า เอามาก็ไม่ได้ใช้ เค้าหักของออกไป ราคาเครื่องลดลง อันนี้ก็เทียบเอาก็แล้วกันว่า มันโอเคหรือไม่ ถ้าไม่โอเคก็อย่าดีกว่าครับ ไปหาร้านที่มันไม่ชักของอุปกรณ์ครบดีกว่า ถ้าไม่ใช้ค่อยไปแยกขายเองยังจะดีซะกว่า ผมขอแนะนำ
ตัวอย่างที่ผมเอามาเสนอเป็นรุ่น N95 ซึ่งของแถมมากับกล่องจะมีดังต่อไปนี้ ( ดังรูป )

- ตัวเครื่องN 95 ( ก็แหงนะสิ ซื้อ N95 จะให้ใส่สากกระเบือมาในกล่องหรือไง ) - แบตเตอรี่ Li-ion BL- 5F 950 mAh จำนวน 1 ก้อน - ชุดหูฟังแบบ Stereo 1 เส้น (HS-45) - ตัวควบคุม AD-43 - MicroSD Card 1GB - CD-Rom Software PC. Suite 1 แผ่น - สาย USB Cable (DKE-2) - Video out cable (CA-75U) - คู่มือการใช้งาน 1 เล่ม - อุปกรณ์ชาร์จเร็วแบบบาง (AC-5U)
**สมุดคู่มือ และใบรับประกันสินค้า จะต้องมีในกล่องอย่างครบถ้วน ( ที่สำคัญ คู่มือหากเป็นเครื่องศูนย์ไทยแท้ๆ จะต้องเป็นคู่มือภาษาไทยครับ แต่บางยี่ห้อจะให้มาทั้งสองภาษาครับ ต้องดูให้ดีๆ)
ในที่นี้ผมอ้างอิงจาก http://www.mlink.co.th/MobileOne.asp?Productid=02-0000329&Logo=Nokia นะครับ
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
5. ทดสอบอุปกรณ์เสริมที่แถมมาในกล่อง
9.1 ลองเสียบที่ชาร์จดูๆ ว่ามันชาร์จเข้าหรือไม่ ถ้าชาร์จได้ ก็ ผ่านครับ
9.2 ทดสอบหูฟัง ที่แถมมาดูสิว่า ใช้ได้ใหม ถ้าใช้ได้ผ่าน
9.3 ลองเสียบเมโมรี่การ์ด แล้วลองใช้งานดู โดยที่เราอาจจะลองถ่ายรูป แล้วลองเซฟรูปลงเมโมรี่การ์ดดูครับ ถ้ามันเซฟรูปลงเมมได้ ก็แสดงว่า โอเค เอ้า ผ่าน
9.4 ( กรณีถ้าร้านขายหรือศูนย์มีเครื่องคอม และเรา … พอ อาจจะขอลองก็ได้ ถ้าไม่ติดเกรงใจ แต่เป็นผมๆ ไม่เกรงใจ เพราะผมถือว่า ผมจ่ายเงินแล้ว ผมควรจะได้รับในสิ่งที่ควรจะได้ตามสิทธิของผม ) ถ้ามีสายดาต้าหรือสายโอนข้อมูล เราอาจจะขอลองเสียบกับคอมพิวเตอร์ดูก็ได้ ( แต่ถ้าไม่มี ตอนซื้อเครื่องกลับบ้านนั้น ให้เรา รีบทดสอบเลยครับ เพราะตรงนี้หลายคนคงจะเคยจอ บางครั้งบอร์ดเจ๊งก็มี ทำให้เสียบกับคอมแล้วใช้ไม่ได้ เจอมาเยอะครับ )
Rem…. ในข้อ 2 นี่ มีข้อกำชับว่า หากมีอุปกรณ์ชิ้นใดชิ้นหนึ่ง ใช้งานไม่ได้ ในขณะที่เราทดสอบ รีบขอเปลี่ยนเลยครับ จะได้ไม่มีปัญหาภายหลังครับ ( พอมีปัญหาขึ้นมาก็เที่ยวมาโพสด่าร้านตามหน้าเวปบอร์ด แล้วตอนซื้อไม่ดูให้ดีๆ หละ ) เอาเป็นว่า รักษาสิทธิกันหน่อยก็ดี ตอนเราจ่ายเงิน แทบจะไม่ได้ลดสักบาท ดังนั้น ของเราก็ควรได้ตามนั้นด้วยครับ
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
6. Voild ประกันของบริษัท
10. ว่ากันในเรื่องของ Voild ประกันสิ้นค้า ซึ่งปกติแล้ว Voild เหล่านี้ จะแปะบนตัวสินค้า แทบทุกชิ้นในกล่อง เช่น สมอลทอร์ค เมโมรี่ สายดาต้า และอื่นๆ ซึ่งถ้าโดยทั่วไปแล้ว แต่ละบริษัท จะมาไม่เหมือนกัน บางบริษัท จะบอกวันหมดประกัน หรือบางเจ้าจะบอกวันที่เริ่มประกัน

ซึ่ง เจ้า Voild ที่ว่านี้ สมมุติว่า ดังเช่นในรูปเป็น Voild MFA โดยเริ่มนับวันรับประกันที่ 03/07 ก็หมายความว่า เริ่มประกันที่เดือน 3 ปี 07 นั่นเอง ( ในเรื่องของการรับประกัน การอ่าน voild หรืออื่นๆ ผมจะกล่าวในตอนถัดไปครับ ) ซึ่งเจ้า Voild พวกนี้ จะต้องแปะอยู่บนอุปกรณ์ทุกชิ้นในกล่อง และแน่นอน มันจะต้องเป็นเลขวันเริ่มประกันวันเดียวกันนั่นก็คือ 03/07 นั่นเอง ( ถ้ามานอกเหนือจากนี้ระวังให้ดีๆ ) และพยายามดู Voild ที่บอกวันรับประกันที่เป็นปัจจุบันให้มากที่สุด เท่าที่จะทำได้
การนับวันรับประกันสินค้าหลังซื้อขายมีหลักเกณดังต่อไปนี้ 1.อ้างอิงจากใบเสร็จซื้อขาย ( สำคัญมากๆ ) 2.อ้างอิงจาก voild ร้าน( พวกร้านขายปลีกขายส่ง บางร้านจะมี voild ร้านอยู่ ) 3.อ้างอิงจาก voild บริษัท
เช่นในกรณีแบบนี้ เค้าจะอ้างอิงการรับประกัน นับจากวันที่ซื้อ โดยอาศัย ใบเสร็จซื้อขาย เป็นตัวยืนยัน และหากเราไม่มีใบเสร็จซื้อขาย เค้าก็จะอ้างอิงจาก voild ร้านค้า และถ้าเครื่องเราไม่มีแปะ voild ร้านค้า เค้าก็จะอ้างอิงจาก voild บริษัท เลยครับ ดังนั้นตอนซื้อที่สำคัญ อย่าลืมขอใบเสร็จมาด้วยนะครับ
ดังจะเห็นได้ว่า voild บนตัวเครื่องระบุมาอย่างไร ไม่สำคัญ มันสำคัญที่ วันที่ในใบเสร็จรับเงินนั่นแหละครับ
Rem…. กรณีที่คุณซื้อเครื่องแล้วพบว่า voild ประกันไม่เหมือนกันเช่น เครื่อง MFA แต่สายดาต้าดันมาเป็น M-link หรืออื่นๆ อันนี้ต้องมาดูกันอีกที ครับ( ไม่ขอกล่าวถึง )
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
7. ขั้นตอนสุดท้าย...... จ่ายเงินและก็ขอใบเสร็จ
...........และสิ่งสุดท้ายที่จะขาดไปเสียมิได้ นั่นก็คือ …. ใบเสร็จซื้อขายนั่นเอง ใบเสร็จนั้นสำคัญอย่างไร มาดูกัน

วันพฤหัสบดีที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2553

หลักการเลือกแอร์

ให้คำนวณขนาดของห้องที่ติดตั้ง รวมไปถึงความสูงของห้องด้วย ถ้าเป็นความสูงปกติ 2-3 เมตร ให้ใช้ค่าในตารางได้เลย แต่ถ้าความสูงมากกว่า 3 เมตร ต้องมีการเผื่อบีทียูเข้าไปอีก ประมาณเมตรละ 3-5000 บีทียู*12000 บีทียู = 1 ตัน
สำหรับแอร์แบบธรรมดา กับระบบ Inverter นั้นแตกต่างกันอย่างไรหลักการเลือกแอร์ติดบ้านมีดังนี้
1.ความรู้สึกในด้านความเย็น แบบธรรมดา จะเย็นแบบที่เรียกว่าเย็นฉ่ำๆ อาการของแอร์แบบนี้ก็คือ มันจะมีการสวิงของอุณหภูมิค่อนข้างมาก เนื่องจากคอมพ์แอร์จะมีการทำงานเพื่อให้อุณหภูมิลดต่ำลงมามากกว่าจุดที่ตั้งไว้ พอได้อุณหภูมิต่ำกว่าจุดที่ตั้งไว้แล้วมันจะตัดการทำงาน จนกระทั่งอุณหภูมิเริ่มสูงขึ้นอีกครั้ง คอมพ์แอร์ก็จะเริ่มทำงานอีกครั้ง ซึ่งในช่วงที่คอมพ์แอร์ทำงาน อากาศมันก็จะเย็นฉ่ำสบายอุรา แต่ถ้าเป็นแบบ Inverter ความรู้สึกของความเย็นที่ได้สัมผัส จะเป็นแบบเฉื่อยๆ เรี่อย เหมือนจะไม่เย็น เพราะว่าตัว Inverter จะทำการปรับรอบการทำงานของคอมพ์แอร์ให้เหมาะสมกับอุณหภูมิ โดยจะพยายามทำให้อุณหภูมินิ่งที่สุด จะไม่มีการทำงานหนักเกินตัว เพื่อลดอุณหภูมิ (ยกเว้นตอนที่เปิดแอร์ใหม่ๆ หรือเลือกโหมด Powerful) ดังนั้นความเย็นที่ได้ก็จะไม่สวิงมากนัก ก็เลยทำให้เรารู้สึกเหมือนไม่ค่อยเย็น แต่ถ้าลองออกไปนอกห้อง แล้วกลับเข้ามาใหม่ จะรู้สึกได้ว่ามันเย็น
2.เรื่องความประหยัด อันนี้จะขึ้นอยู่เวลาที่ใช้งาน ถ้าเปิดใช้นานๆ เปิดตลอด Inverter ประหยัดมากกว่าแน่นอน แต่ถ้าเปิดแค่ 4-5 ชั่วโมง อันนี้อาจจะไม่ค่อยแตกต่างกันเท่าไหร่นัก (Inverter ประหยัดกว่านิดหน่อย) แต่ที่ได้เปรียบอีกอย่างของ Inverter ก็คือ ความเงียบ
3.งบประมาณอันนี้สำคัญเพราะ Inverter จะมีราคาสูงกว่าแบบธรรมดาที่ บีทียูเท่ากัน (ยกเว้นบางช่วงที่ลดล้างสต๊อค อาจจะได้ของถูก)

หวัด

อาทิตย์ก่อน ทุกคนในออฟฟิศเป็นหวัดกัน แต่เราไม่เป็น ตอนแรกนึกว่าตัวเองแข็งแรงพอที่จะไม่เป็นหวัด
แต่มาวันนี้โดนเต็ม ๆ
หวัดลงคอ เฮ้อ...เจ็บคออะ
กำ~_~"a

วันอังคารที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2553

แก้งาน

วันนี้ ค่อนข้างวุ่นวาย ตามหาสต้อกสินค้า แก้ของเดือนเก่า หากันให้วุ่น 555 แต่วันนี้ดีหน่อย เจ้านายไม่มา เหอเหอ